-สถานพยาบาลเกษมเวชกรรม- หมอแมะเมืองนนท์
ภาวะมีบุตรยาก
การแมะคืออะไร
สมุนไพรจีน
หมอสุพจณ์ หมอเกษม หมออภิรักษ์


ติดต่อสอบถาม
02-969-7667-8

ตั้งแต่เวลา 9:00 - 19:00น.
(หยุดทุกวันพุธ)

โรคผู้สูงอายุ

โรคผู้สูงอายุ ที่มักพบบ่อยๆ คือ

 

 

 

โรคเบาหวาน

 

โรคเบาหวานเป็นเป็นโรคที่เกิดจากร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ สาเหตุมาจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินออกมาได้เพียงพอ หรือออกมาไม่ได้เลย หรือสร้างได้แต่อินซูลินทำงานได้ไม่ดี คือ ไม่สามารถนำน้ำตาลจากกระแสเลือดไปให้เซลล์ใช้เป็นพลังงานได้ ผลคือ ทำให้น้ำตาลในเลือดเหลือค้างมากกว่าปกติ (ในคนปกติก่อนรับประทานอาหารเช้า จะมีระดับน้ำตาลในเลือดประมาณ 70 - 99 ม.ก. และหลับรับประทานอาหารแล้ว 2 ชั่วโมงระดับน้ำตาลไม่เกิน 140 ม.ก.) เมื่อน้ำตาลอยู่ในเลือดสูงเกิน 180 ม.ก. ไตจะขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ ซึ่งสามารถตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะได้ จึงเรียกว่า "โรคเบาหวาน"

ทราบได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวาน

โรคนี้จะสังเกตจากอาการเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะถ้าเป็นน้อยอาจจะไม่มีอาการ ต้องเจาะเลือดหาระดับน้ำตาลเป็นหลัก สำหรับเกณฑ์คนที่ถือว่าเป็นเบาหวาน คือ

1) ผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหารเช้า ตั้งแต่ 126 ม.ก. ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป

2) ผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่ว่าจะเป็นเวลาใดเกิน 200 ม.ก. ร่วมกับมีอาการของโรคเบาหวาน กล่าวคือ หิวบ่อยแต่น้ำหนักลดลง ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อยๆ

 

ความดันโลหิตคืออะไร

 

 

     ความดันโลหิตเป็นแรงผลักดันให้เลือดไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เกิดจากการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ประกอบด้วยค่าสองค่า คือความดันตัวบน และความดันตัวล่าง เช่น 120/80 120 เป็นค่าความดันตัวบนซึ่งเกิดขึ้นขณะที่หัวใจบีบตัว ส่วน 80 เป็นค่าความดันตัวล่างซึ่งเป็นความดันในหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจอยู่ในระยะพักก่อนที่จะบีบตัวครั้งต่อไป ความดันโลหิตทั้ง 2 ค่ามีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตรปรอท (มม.ปรอท)

ความดันโลหิตเท่าใดถึงจะถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง

ขั้นตอนต่างๆ ของความดันโลหิต

ระดับความดันตัวบน

ระดับความดันตัวล่าง

ปกติ น้อยกว่า 120 และน้อยกว่า 80
ระยะก่อนเกิดความดันโลหิตสูง 120 - 139 หรือ 80 - 89
ความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1 140 - 159 หรือ 90 - 99
ความดันโลหิตสูงขั้นที่ 2 160 หรือมากกว่า 100 หรือมากกว่า

 

     ตารางข้างบนแสดงการแบ่งขั้นของความดันโลหิตในบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป ในกรณีที่ความดันตัวบนกับตัวล่างอยู่ต่างขั้นกันให้ถือขั้นที่รุนแรงกว่าเป็นตัวตัดสิน เช่น ความดัน 150/105 จัดอยู่ในความดันโลหิตสูงขั้นที่ 2 และความดัน 170/85 อยู่ในข้นที่สองเช่นกัน

สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง

90% มักไม่พบสาเหตุโดยตรง มีส่วนน้อยที่เราพบสาเหตุโดยตรงของโรค ซึ่งเมื่อรักษาสาเหตุแล้วทำให้โรคความดันโลหิตสูงดีขึ้นหรือหายขาดได้

ปัจจัยเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง

ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงแต่ไม่มีสาเหตุโดยตรงมักพบภาวะต่างๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ ได้แก่

  1. ภาวะอ้วน
  2. การรับประทานอาหารรสเค็มเป็นประจำ
  3. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำ
  4. ความเครียด
  5. การขาดการออกกำลังกาย
  6. พันธุกรรม
  7. อายุที่มากขึ้น

โรคความดันโลหิตสูงมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร

โรคนี้ยิ่งเป็นรุนแรงและเป็นนานเท่าใดก็ยิ่งมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนมากเท่านั้น ได้แก่

  1. หลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
  2. กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว
  3. ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว
  4. หลอดเลือดสมองตีบตันหรือแตก
  5. หลอดเลือดแดงที่ขาหรือแขนตีบตัน
  6. หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หรือปริแยก
  7. ไตเสื่อมและไตวายเรื้อรัง

การรักษาความดันโลหิตสูงจะลดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้อย่างชันเจน

อาการของโรคความดันโลหิตสูง

โรคนี้มักไม่มีอาการแม้ในขณะที่ความดันโลหิตสูงกำลังทำอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดแดงทั่วร่างกายอย่างต่อเนื่อง ในส่วนน้อยอาจะมีอาการปวดหัว โดยเฉพาะเมื่อตื่นนอนเช้า มึนงง ตาพร่า อ่อนเพลียซึ่งเป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจง ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงรุนแรงและเป็นเวลานานจนมีอวัยวะเสื่อมสมรรถภาพก็จะมีอาการของโรคแทรกซ้อนเหล่านั้น

การรักษาโรคความดันโลหิตสูงโดยไม่ใช้ยา

สิ่งที่ต้องทำในทุกกรณีของโรคความดันโลหิตสูง

  1. การลดอาหารเค็ม
  2. การลดน้ำหนักตัวถ้ามีภาวะอ้วน
  3. การงดสูบบุหรี่
  4. การลดปริมาณเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  5. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  6. การรับประทานผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารที่มีไขมันต่ำเป็นประจำ

 

"อย่าปล่อยให้คนที่รักคุณมากที่สุด ต้องเจ็บป่วย ดูแลเค้าตั้งแต่วันนี้ดีกว่า"

 

ที่สถานพยาบาลเกษมเวชกรรม มีคุณหมอที่มีประสบการณ์การตรวจแมะมามากกว่า 30 ปี เข้าใจปัญหาของโรคต่างๆ อย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะโรคที่คนไทยเป็นจำนวนมาก เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, โรคไต เป็นต้น

โทร. 02-969-7667-8 , 02-527-1289 (หยุดทุกวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 9:00-19:00น.
Facebook:
www.facebook.com/kasemwet
Line id: @kasemwet

 

ตัวอย่างวีดีโอ ที่เกษมเวชกรรม ดูแลผู้สูงอายุ จนอาการดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยครับ